เจาะลึก “ธุรกิจซื้อมาขายไป” มีรูปแบบไหนบ้าง? และยังน่าลงทุนอยู่ไหมในปี 2025

“ธุรกิจซื้อมาขายไป” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ธุรกิจค้าขาย” เป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่อยู่คู่สังคมไทยมาทุกยุคสมัย ด้วยหลักคิดง่ายๆ ว่า “ซื้อมาในราคาหนึ่ง แล้วขายออกในอีกราคาหนึ่งเพื่อทำกำไร” ธุรกิจประเภทนี้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้น ผู้มีทุนจำกัด หรือแม้แต่นักลงทุนที่มองหารูปแบบการทำกำไรที่หมุนเงินได้เร็ว ในปี 2025 นี้ ธุรกิจซื้อมาขายไปยังคงเป็นหมวดธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวสูงและเปิดโอกาสให้นักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่สนามได้เสมอ

ธุรกิจซื้อมาขายไป คืออะไร ?

คือการซื้อสินค้า บริการ หรือวัตถุดิบจากแหล่งหนึ่ง แล้วนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าปลายทาง โดยตั้งราคาขายที่สูงกว่าราคาทุน เพื่อให้เกิดกำไรโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการผลิตเอง ความได้เปรียบของธุรกิจแบบนี้คือความคล่องตัว ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องจักรหรือไลน์การผลิต แต่ต้องมีทักษะในการบริหารสินค้า การเลือกตลาด และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค

ประเภทของธุรกิจซื้อมาขายไป

1. ธุรกิจค้าส่ง

ซื้อสินค้าจำนวนมากจากผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า แล้วขายต่อให้ร้านค้าปลีกหรือพ่อค้าแม่ค้า โดยกำไรมาจากปริมาณมากและราคาต่อหน่วยที่ต่ำ

2. ธุรกิจค้าปลีก

ซื้อสินค้าในปริมาณเหมาะสมเพื่อนำมาขายให้ผู้บริโภคโดยตรง เช่น ร้านค้าออนไลน์ ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าในตลาด

3. ธุรกิจตัวแทนจำหน่าย / Dropship

ไม่ต้องสต็อกสินค้าเอง เพียงแค่ทำหน้าที่ขาย รับคำสั่งซื้อ แล้วส่งต่อให้เจ้าของสินค้าเป็นผู้จัดส่งให้ กำไรมาจากส่วนต่างที่ตกลงกันไว้

4. ธุรกิจนำเข้าสินค้าต่างประเทศ

ซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพื่อนำมาขายในประเทศ โดยใช้ความได้เปรียบด้านราคาและความแปลกใหม่ของสินค้า

ธุรกิจค้าขายที่โดดเด่นในปี 2025

ในปี 2025 เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การค้าขายที่ตอบโจทย์ความต้องการจึงมีความได้เปรียบ โดยเฉพาะธุรกิจเหล่านี้

• สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม เช่น วิตามิน อาหารเสริม สกินแคร์ ที่ยังคงเติบโตจากการใส่ใจสุขภาพ
• สินค้านำเข้าเฉพาะกลุ่ม เช่น สินค้าเกาหลี สินค้าญี่ปุ่น หรือ Gadget ใหม่ๆ ที่ไม่มีขายทั่วไปในไทย
• ธุรกิจออนไลน์แบบ Dropship คนรุ่นใหม่เริ่มธุรกิจได้ง่ายโดยไม่ต้องมีทุนสูง
• ของใช้ในบ้าน / ของแต่งบ้าน คนทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้การซื้อของใช้และของแต่งบ้านมีความต้องการสูง

ควรเริ่มต้นธุรกิจซื้อมาขายไปอย่างไร ?

1. เลือกตลาดที่ชัดเจน
   • ต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร มีพฤติกรรมอย่างไร และกำลังมองหาสินค้าแบบไหน
2. หาสินค้าที่มีความได้เปรียบ
   • อาจเป็นเรื่องของราคา คุณภาพ ความแปลกใหม่ หรือการแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้จริง
3. วางแผนต้นทุนและราคาขายอย่างแม่นยำ
   • อย่าลืมคำนวณค่าขนส่ง ค่าแพ็กเกจจิ้ง และต้นทุนแฝงอื่น ๆ
4. เลือกช่องทางจำหน่ายที่เหมาะสม
   • ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน Shopee Lazada TikTok หรือ Social Media อื่น ๆ ต้องวางกลยุทธ์การขายให้ตรงแพลตฟอร์ม
5. จดทะเบียนธุรกิจให้ถูกต้อง
   • เพื่อความน่าเชื่อถือ และเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต ควรมีทะเบียนพาณิชย์ บัญชีแยก และการจัดการภาษีที่ถูกต้อง

ความเสี่ยงของธุรกิจแบบซื้อมาขายไป

• สินค้าค้างสต็อก หากประเมินตลาดผิด สินค้าอาจขายไม่ออก ทำให้เงินจม
• การแข่งขันด้านราคา โดยเฉพาะสินค้าทั่วไป หากไม่มีความแตกต่าง จะเข้าสู่สงครามราคาได้ง่าย
• ปัญหาด้านซัพพลายเออร์ เช่น ส่งของช้า ของหมด ของไม่ได้คุณภาพ ส่งผลให้ลูกค้าหาย
• ภาษีและกฎหมายที่เปลี่ยนแปลง เช่น กฎใหม่ของแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือภาษีอีคอมเมิร์ซ

CEO MAN พร้อมร่วมทุน ช่วยเหลือนักธุรกิจคนไทย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเริ่มต้นธุรกิจซื้อมาขายไป แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มอย่างไร CEO MAN มีโครงการที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจ และยินดีช่วยเจ้าของธุรกิจทุกประเภท โดยมีงบตั้งแต่ 1 ล้าน ต่อ 1 ธุรกิจ ไปจนถึง 2.9 ล้าน ต่อ 1 ธุรกิจ

ไม่ว่าคุณจะต้องการหาผู้ร่วมลงทุนร่วมในโปรเจกต์ใหม่ การขยับขยายธุรกิจ หรือมองหาเงินทุนให้ธุรกิจ CEO MAN ก็มีระบบคัดกรองธุรกิจที่น่าเชื่อถือไว้รองรับ ทั้งในรูปแบบร้านค้า บริษัท หรือแฟรนไชส์ พร้อมช่วยเจรจา วิเคราะห์ และวางระบบสนับสนุนธุรกิจให้ต่อยอดได้จริง เพราะ CEO MAN อยากช่วยเหลือนักธุรกิจคนไทย และสู้กับทุนต่างชาติได้อย่างเต็มที่

ช่องทางการติดต่อ ร่วมทุนธุรกิจกับ CEO MAN
P Center Car ศูนย์รวมรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนกาญจนาภิเษก
ที่ตั้งเต็นท์ : 14 ม.17 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
เบอร์โทรติดต่อ : 02-447-9292 (สำนักงานใหญ่) 
เวลาเปิดทำการ : 09:00 – 18:00 น. Google Map : https://maps.app.goo.gl/zp5UMtsa5ggJ2dKXA